รีวิวห้องอาหาร Amaya Food Gallery โรงแรม Amari Watergate Bangkok
เพราะช่วงนี้อากาศแปรปรวน ช้างน้อยก็เลยหิวแบบผิดปกติ (เกี่ยวมั้ยนะ555) วันอาทิตย์ วันหยุดของครอบครัวแบบนี้ ก็ได้โอกาสยกโขลงกันมาทาน Sunday Brunch ของโรงแรม Amari Watergate Bangkok
ใช่แล้วจ้า ประตูน้ำแลนด์ ดินแดนละลายทรัพย์นี่เอ๊งงง โรงแรม Amari ตั้งอยู่ตรงข้ามกับแพลทตินัมเลย Sunday Brunch ของห้องอาหาร Amaya ที่นี่จะเริ่มสายกว่าที่อื่นนะ
อารมณ์แบบว่า วันหยุด ตื่นสายซักหน่อย หรือว่าจะมาช็อปปิ้งแถวนี้เสร็จแล้วหิวๆ ดูนาฬิกาแล้วก็เที่ยงพอดี ก็เดินข้ามถนนมาจัดหนัก แล้วนั่งยาวไปจนถึงบ่ายสามครึ่งได้เล้ยยย
ก่อนจะพูดถึงอาหาร ขอแอบแว๊บพูดถึงเรื่องสถานที่ก่อน ช้างน้อยชอบการตกแต่งของที่นี่นะ เพดานเค้าสูงมากเลย รู้สึก โปร่ง โล่ง สบาย คือเวลากินบุฟเฟ่ต์เนี่ย ตัวเรา พุงเราก็แน่นพอแล้วใช่ป่ะ ถ้าห้องอาหารเพดานต่ำ ช้างน้อยรู้สึกอึดอัด รู้สึกเหมือนว่าดื่มด่ำกับอาหารได้ไม่เต็มที่ยังไงก็ไม่รู้อะ (เปล่าหรอก จริงๆช้างน้อยกินเยอะเอง 5555)
ส่วนแต่ละโซนการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นโซนอาหารไทย โซน Grill โซน Seafood รวมไปถึงโซนของหวานก็ทำเป็นเคาท์เตอร์แบบเปิด เพื่อให้เราได้สัมผัสบรรยากาศการปรุงอาหารได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย แถมยังให้เราได้เลือกทุกอย่างให้เป็นแบบสไตล์ของเราเอง จะปรุงสลัดแบบไหน อยากให้ย่างเนื้อแกะความสุกระดับไหน ชอบพิซซ่าหน้าอะไร ครีเอทเมนูเอง แล้วบอกพี่เชฟที่ประจำจุดได้เลย พี่เค้าจัดให้ทุกอย่างตามรีเควสท์จ้า แอบกระซิบแบบขีดเส้นใต้เส้นหนาๆว่า ใครที่ชอบฟัวกราส์ ให้พกยาดมไปด้วยนะ เพราะฟินจนแทบจะเป็นลมเลยล่ะ!!
ไม่พูดพร่ำทำเพลงดีกว่า ช้างน้อยขอเตือนว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ช้างน้อยจะขอปล่อยให้รูปทั้งหมดได้ยืนยันความอลัง ความฟิน ความดียยยย์ ของทั้งหน้าตาและรสชาติอาหารที่ช้างน้อยได้ไปทำการกวาดสรรพสิ่งลงไปในท้องป่องๆเรียบร้อย แล้ว ซีฟู้ดจะต้องหมดทะเล หมูเห็ดเป็ดไก่ถึงกับต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต ใครยังท้องว่าง รีบไปหาอะไรรองท้องซะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ดูรีวิวจบแล้ว ขีดปฏิทิน นับถอยหลังรอวันอาทิตย์เลยนะ อย่าให้พลาด!
มีโปรฯดีๆแรงๆ แรงมาก แรงจนตกใจ ซึ่งรายละเอียดของห้องอาหารและโปรโมชั่นอยู่ด้านล่างนาจา
แต่ความฟิน ความเม้ามอยของอาหารแต่ละจาน เชิญที่ใต้ภาพโลดจ้า อดใจไม่ไหว อยากจะแบ่งปันความฟินให้ถ้วนทั่วไปทุกหัวระแหงร้าววว แปร๋นนนนนนน…
เริ่มกันที่มุม Grill มุมโปรดของช้างน้อยกันก่อนเลยดีกว่า ดูความอลังการของวัตถุดิบสิคะคุณ
อะอะ กลัวจะเห็นกันไม่ชัดโนะ ไหนซูมอีกทีซิ นี่มันหอยหรือยักษ์กันแน่เนี่ย ช้างน้อยเริ่มไม่แน่ใจ
ดูความส้มแซลมอนสิ สีเนียนสวย เอาไปย่างแบบไม่ต้องสุกมากนะ อื้อหือ ละลายในปากเลยล่ะ
จุ้งจุ้งจุ้งงงง กุ้งลายเสือตัวใหญ่ใหญ๊ใหญ่
อีกด้านของมุม Grill เนื้อวัว เนื้อแกะนำเข้าลายสวย คุณภาพแน่นก็มาจ้า
อะ ซูมให้ดูกันอีกซักนิดสำหรับมนุษย์สายเนื้ออออ
ช้างน้อยเลือกหอยเชลล์ กั้ง แล้วก็เนื้อแกะมาลองชิมดู บอกเลยว่า ฟินมากกกกก
ออกจากมุม Grill แล้ว ถัดมา ด้านขวามือจะเจอกับสิ่งนี้!!
ปูอลาสก้าก็มากันแบบทะลักทลาย แทะกันให้สะใจไปเล้ย
ถึงคราวช้างน้อยขอชิมบ้างน้า ความมันของท้องปลาแซลมอนใช้ได้เลยนะเนี่ย งั่มๆ…
และนี่คือ สถานที่ชุมนุมของหอยนางรมทั่วโลก ฝรั่งเศส เกาหลี ออสเตรเลีย ตัวใหญ่ๆทั้งน้านน ว่าแล้วก็จัดมาซักหนึ่งเซ็ท
วาร์ปมาที่โซนอาหารจีน ของที่ทานเล่นก็มี ทานจริงจังก็มีนะ
อาหารไทยเค้าก็ไม่ธรรมดานะ
หูยยยย กุ้งเด้งมั้ยล่ะ นี่แค่ยำ เอาไว้ทานเล่นๆขำๆนะคู๊ณณณ
สลัดบาร์ จัดมุมแยกต่างหาก สวยงามเลยทีเดียว
ไปกันต่อที่โซนอาหารอินเดียเล้ย
พี่เชฟกำลังอบไก่โชว์ ช้างน้อยรีบวิ่งไปถ่ายมาทันพอดีเล้ย เกือบกลิ้งแล้ว แปร๋นนน
สำหรับใครที่อยากจะทานของหวาน อยากจะพักเบรคจากของคาวซักแป๊บ
ขยับมาจากโซน Seafood นิดนึงแล้วจะมาเจอเซ็ทของหวานงานอลังโต๊ะนี้ สาวกชีสเค้กห้ามพลาด มีชีสเค้กหลายแบบ และขีดเส้นใต้ว่างานดี!
โต๊ะเดียวกับชีสเค้ก จะมีเครื่องดื่มเหล่านี้ถูกจัดเรียงโชว์อยู่ ซึ่งถ้าใครสนใจ ดูเมนูได้ สอบถามรายละเอียดจากพี่ๆพนักงานได้ หรือถ้าตั้งใจว่าวันนี้จะต้องชิมเจ้าขวดเหล่านี้ให้ครบแล้วล่ะก็ ตอนเข้ามา อย่าลืมแจ้งพี่พนักงานว่าขอเลือกเป็นโปรฯแชมเปญนาจา คุ้มแน่นอน คอนเฟิร์ม!!
และนี่คือโซนของหวาน
มีทั้งผลไม้ฟองดูว์เอย ขนมไทยต่างๆเอย ไหนจะไอติมโบราณ ขนมครกทำสด เครปทำสดอีก แล้วก็ยังมีน้ำแข็งใสด้วย เหมาะกับอากาศร้อนๆบ้านเรามาก เลือกท็อปปิ้งเองโลด ใส่ได้ไม่อั้น จะว่าไป มุมของหวานนี้ก็ทำให้รู้สึกถึงความไทยๆ ซึ่งถูกนำมาประยุกต์ให้ดูโมเดิร์น ทันสมัยเข้ากับห้องอาหาร ก็เป็นอะไรที่ลงตัวดีนะช้างน้อยว่า ^^
นอกจากของหวาน เพิ่มความชื่นใจ สู้กับอากาศร้อนๆด้านนอกแบบสไตล์ไทยๆแล้ว ไอศครีมแบบฝรั่งก็มีเช่นกันจ้า แหม่ ไอติมเค้านี่ สีคุมโทนดีนะ ขาวเขียวสลับกัน ถ่ายรูปออกมาสวยเชียว 555 แต่ไม่ได้มาแค่ไอติมอย่างเดียวจ้า พกท็อปปิ้งและโคนมาด้วย ช้างน้อยไม่เคยเจอไลน์บุฟเฟ่ต์ที่มีกรวยไอศครีมให้แบบนี้ด้วย น่ารักดีนะ
ใกล้ๆกับโซนของหวาน จะเป็นบาร์เครื่องดื่ม ซึ่งตั้งอยู่ที่โซนด้านในของห้องอาหารเลย ติดกับกระจกบานใหญ่ ดูแล้วโปร่ง สบายตา มุมที่มองออกไปจะเห็นเป็นตึกแพลทตินัม
และมุมด้านในสุดของห้องอาหาร บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ จะมีอะไรบ้าง รีบตามมาดูเร้ว
อะ เริ่มกันเบาๆก่อน
ตามด้วยพิซซ่า ทีเด็ดอีกตัวนึง พิซซ่าที่นี่นอกจากจะทำสดวางไว้เรื่อยๆแล้ว ยังสามารถสั่งตามใจเราได้อีกด้วยนะจะบอกให้ เริด!
สปาเก็ตตี้ ซุปซีฟู๊ด รวมถึง Egg Benedict ก็สั่งได้ที่เคาท์เตอร์นี้นะ
และสุดท้าย ที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่พาดหัวแล้ว ว่าคนที่ชอบสิ่งนี้ ห้ามพลาดห้องอาหารนี้เด็ดขาด ขีดเส้นใต้ ทำตัวหนาตัวเอียงตัวใหญ่เน้นย้ำเลย ในภาพนี้คืออะไรเอ่ย? ติ๊กต่อก
ช้างน้อยตอบให้ มันคือ “ฟัวกราส์” หรือตับห่านนั่นเอง
ซึ่งจะบอกว่า นี่ไม่ใช่ภาพเพื่อการโฆษณานะคะคุณ ของจริงก็หนาเท่านี้ หนาปึ้กแบบนี้เลย พอปรุงเสร็จแล้วหน้าตาจะเป็นยังไง จะหดมั้ย ไปที่ภาพถัดไป ด่วนนน
ดูความหนาความฉ่ำความละมุนของนางสิ โอ๊ย เขียนเองหิวเองอีกแล้วววว คืออยากจะบอกว่า ฟินมากกกกกกก กอไก่ยกกำลังแสนเลยเอ้า! ใครที่ชอบฟัวกราส์เช่นกัน คุณจะต้องหลั่งน้ำตาอย่างแน่นอน เพราะพี่เชฟเค้ารู้ใจเรามากๆ หั่นหนาแบบนี้ เวลาเอาไป Grill พี่เค้าจะทำให้สุกแบบด้านนอกกรอบนิดๆ หอมกลิ่นการย่าง ส่วนด้านใน คือละลายยยยยยยยยยยยย
ฟัวกราส์ก็ละลายในปาก ช้างน้อยก็ละลายติดกับเก้าอี้ไปแล้วจ้า คือไม่รู้ว่าพรรณณายังไงถึงจะแสดงออกครบถ้วนถึงความดีงามที่เข้าไปวิ่งพลุ่งพล่านตุ๊งตุ๊งตุ๊งในปากของเราอะ แบบว่าบันเทิงเริงใจมาก ตัวซอสสีดำ มองเผินๆอาจจะเหมือนช็อกโกแลต แต่ไม่ใช่นะ ด้วยความอยากรู้ ไปสอบถามพี่เชฟได้ความมาว่า ซอสสีดำ คือซอสวาซาบิสกัด ส่วนน้ำซอสใสที่ราดด้านบนฟัวกราส์เนี่ย โอ้โหวว คือมันดีงามมาก กินเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่น บวกกับความหอมมันของฟัวกราส์ คำแรกที่เข้าปาก รู้สึก โหย เข้ากันดีมากอะ จนต้องไปถามข้อมูลมาว่าซอสนี้ทำมาจากอะไรกันแน่ สรุป เป็นซอสมะละกอจ้า โอ้โห คือถ้าพูดถึงผลไม้ที่เอามาทำซอสแก้เลี่ยนเนี่ย ช้างน้อยจะนึกถึงส้ม สับปะรดเป็นอันดับแรกๆเลย
แต่นี่คือซอสมะละกอ มีความครีเอทนะ แต่บางวัน ตัวซอสใสก็เปลี่ยนบ้าง แล้วแต่ว่าวันไหนมีวัตถุดิบอะไร พี่เชฟเค้าก็จะทำหน้าที่รังสรรค์ซอสออกมาให้เข้าคู่กับเมนูฟัวกราส์ได้อย่างดี ไว้ใจพี่เชฟเค้าได้เล้ย สำหรับท่านใดที่ไม่ชอบทานฟัวกราส์ชิ้นหนาๆ กลัวจะเลี่ยนเกินไป สามารถแจ้งได้เลยนะ พี่เค้าจะลดความหนาให้ แบ่งปันความฟินกันถ้วนหน้า ให้ 10 10 10 ไปเลยจ้าาาาาา
เอาล่ะ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ช้างน้อยคงจะต้องขอจบการฟ้องด้วยภาพแต่เพียงเท่านี้ ไม่ไหวแล้ว หิวมาก แต่กินอาหารข้างบนไปซะเยอะ คงจะต้องไดเอทแล้วล่ะ ไปกินอ้อย กินกล้วยก่อนน้าทุกคน เอาไว้ช้างน้อยจะมาเยี่ยมเยียนใหม่พร้อมรีวิวของกินอร่อยๆแบบนี้ในโอกาสหน้านะจ๊ะ ไปแล้วจ้า แปร๋นแปร๋นนนน
ห้องอาหารอมาญา Amaya Food Gallery ชั้น 4
(จอดรถที่ชั้น 4 เดินเข้ามาจะเจอห้องอาหารอยู่ด้านหน้าเลย สะดวกสุดๆ และสามารถนำบัตรจอดรถมาประทับตราได้ที่ด้านหน้า stamp แล้วจอดได้ฟรี 4 ชั่วโมงนะจ๊ะ)
สำหรับ Sunday Brunch ห้องอาหารเปิดทำการตั้งแต่ 12.00 – 15.30 น.
และราคาก็ไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียวเท่านั้น แต่มาเป็นแพ็คเกจเลย ดังนี้จ้า
- AMAYA Brunch : คนละ 1,800++ เฉพาะอาหารและน้ำเปล่า
- Regular : คนละ 2,499++ (รวมเครื่องดื่ม Soft Drink / น้ำเปล่าและน้ำผลไม้)
- Wine Brunch : คนละ 2,999++ (รวม Sparking Wine / Red Wine / White Wine / Soft Drink / น้ำเปล่าและน้ำผลไม้)
- Champagne Brunch : คนละ 3,500++ (รวมแชมเปญ Sparking Wine / Red Wine / White Wine / Soft Drink / น้ำเปล่าและน้ำผลไม้)
บอกเลยว่า ใครที่เป็น Champagne หรือ Wine’s lover อยู่แล้วเนี่ย ต้องมาลองแพ็คเกจของที่นี่นะ เพราะว่าคุ้มมากกกกกก เครื่องดื่มแบบ free flow รับรอง กลับบ้านไป นอนหลับยังฝันถึงที่นี่แน่นอน คอนเฟิร์ม!
ย้ำแรงๆอีกทีว่าสมัครสมาชิกเครือ ONYX ได้สิทธิประโยชน์ครบทั้งโรงแรม ห้องอาหาร และสปา คุ้มสุดคุ้มกับการสมัครแบบฟรีๆ สมัครเลย คุ้มแน่นอนครับ