รีวิว Hongkong Disneyland ดินแดนแห่งความฝัน ฉลองธีม Carnivale of Stars

อยากเที่ยวให้ครบต้องจัดเวลาให้ดี! พี่ช้างพาท่องดินแดนในฝัน “รีวิว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์” แบบละเอียด ฉลองธีมซัมเมอร์ Carnivale of Stars

เมื่อพูดถึงฮ่องกง ใครๆก็คงนึกถึงวัดแชกงหมิว แหวนกังหันนำโชค หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้า แต่จริงๆแล้วฮ่องกงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เจ๋งมากๆใครพลาดที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ พี่ช้างขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งนับว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ ดินแดนในฝันของทุกคน สำหรับใครที่เคยมาแล้ว พี่ช้างก็ยังอยากแนะนำให้มาอีกนะครับ เพราะฮ่องกงดิสนีย์แลนด์นี้มีการปรับเปลี่ยนโฉมโชว์ใหม่อยู่ตลอด ไม่ว่ามากี่ครั้งรับรองว่าจะพบความตื่นเต้นที่ไม่ซ้ำกันเลยครับ โดยช่วงนี้ที่พี่ช้างมาจะเป็นธีมต้อนรับซัมเมอร์ Carnivale of Stars ครับ

ข้างหน้า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ตั้งอยู่บนเกาะลันเตาในประเทศฮ่องกง เป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 5 ของโลก และเป็นแห่งที่ 2 ของเอเชียถัดจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยา ค.ศ.2005 โดยภายในสวนสนุกจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซนครับ เดี๋ยวพี่ช้างจะอธิบายให้ฟังว่ามีโซนอะไรบ้าง

แผนที่สวนสนุก ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

การเดินทางมายัง Hong Kong Disneyland

พี่ช้างจะพามาดูวิธีการเดินทางยอดฮิตเพื่อมาที่นี่กันครับ ซึ่งเดินทางได้ง่ายมาก นั่นก็คือการนั่งรถไฟฟ้า MTR มาลงสถานี Sunny Bay และต่อรถไฟฟ้ามาสถานี Disneyland Resort ครับ แต่หากใครไม่อยากเสียเวลาเดินทาง พี่ช้างแนะนำให้นอนที่ Hongkong Disneyland Resort เลยครับ ซึ่งมีให้เลือก 3 โรงแรมด้วยกัน คือ Hongkong Disneyland Hotel , Disney’s Hollywood Hotel และโรงแรมเปิดใหม่ล่าสุด Disney Explorers Lodge โดยแต่ละโรงแรมจะมี Shuttle Bus เพื่อรับ-ส่งถึง Hongkong Disneyland เลยครับ

สถานีรถไฟหน้า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
บริเวณสถานีรถไฟหน้า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

อัตราค่าเข้าสวนสนุก

ราคาปกติจะอยู่ที่ 619 HKD ต่อท่านครับ แต่ตอนนี้ทางฮ่องกงดิสนีย์แลนด์มีโปรโมชั่นพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยเฉพาะ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่นี่เลยครับ https://www.hongkongdisneyland.com/offers-discounts พี่ช้างแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปนะครับ เพราะหากไปซื้อตั๋วที่หน้าสวนสนุก คิวอาจจะยาวทำให้เราเสียเวลาเล่นเครื่องเล่นได้ครับ

โซนภายใน Hong Kong Disneyland ทั้ง 7 โซน

พี่ช้างจะพามาดูพร้อมๆ กันนะครับว่าทั้ง 7 โซนมีโซนไหนบ้าง และแต่ละโซนมีจุดเด่นอะไรบ้างที่ไม่ควรพลาด เพราะฮ่องกงดิสนีย์แลนด์มีเครื่องเล่น และสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ดังนั้นพี่ช้างจึงอยากแนะนำให้ศึกษาข้อมูลไปก่อน เพื่อจะได้ช่วยประหยัดเวลา เวลาเข้าไปจะได้ใช้เวลาให้คุ้มครับ ปกติแล้วฮ่องกงดิสนีย์แลนด์จะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของทุกวัน พี่ช้างแนะนำให้มาก่อนเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะได้เดินเก็บภาพความประทับใจด้านหน้าให้ทั่วก่อนครับ

แผนที่ภายในสวนสนุก สามารถหยิบได้ที่หน้าทางเข้านะครับ หรือหากใครต้องการความสะดวก สามารถแสกนคิวอาร์โค้ดดาวน์โหลด Application เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ และแผนที่ภายในได้เลยครับ

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฮ่องกงดิสนีย์

และสำหรับใครที่อยากพุ่งตัวไปซื้อของที่ร้านค้าตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไป พี่ช้างแนะนำว่าเล็งไว้ก่อนค่อยซื้อขากลับดีกว่านะครับ เพราะเวลาอยู่ด้านในสวนสนุกจะได้เล่นเครื่องเล่นได้แบบคล่องตัวไม่ต้องมัวห่วงของฝากของครับ

โซนที่ 1 Main Street, U.S.A

โซนนี้จะอยู่ทางด้านหน้าของสวนสนุก เมื่อเดินเข้ามา เราจะเห็นอาคารที่จำลองบรรยากาศในอดีตของสหรัฐอเมริกาไว้ โดยในโซนนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ตั้งแต่อาหารจีน อาหารฝรั่ง รวมไปถึงร้านอาหารสำหรับผู้นับถือศาลนาอิสลาม ซึ่งพี่ช้างได้แวะไปทานอาหารฝรั่ง และอาหารจีนในโซนนี้มาด้วยครับ

ร้านอาหารฝรั่ง พี่ช้างได้ไปทานร้านแรกคือร้าน Corner Cafe by coca-cola ครับ ซึ่งอยู่ด้านในสุดของ Main Street ฝั่งขวา ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่มีเมนูมากมายที่ได้รับแรงบันดาลใจมา Coca-Cola สำหรับร้านนี้พี่ช้างสั่งเมนู Mediterranean Seafood Spaghetti With Crustacean Sauce ชื่อยาวไปก็ชี้ให้พนักงานดูก็ได้นะครับอ่านจบก็คอแห้งพอดี

หลังจากทานคาวแล้ว ก็ต้องตบท้ายด้วยอะไรหวานๆ ในวันนี้มีเมนูพิเศษเอาใจคนรัก Duffy นั่นก็คือ Duffy and Friends Souvenir Glass with Special Drink Pink Guava and White Peach หอม หวาน อร่อย สดชื่นสุดๆ แถมดื่มเสร็จแล้วยังได้แก้ว Duffy น่ารักๆ กลับบ้านเป็นของที่ระลึกกันด้วย

และสำหรับร้านอาหารจีน พี่ช้างได้ไปทานที่ร้าน Plaza Inn ซึ่งอยู่ด้านในสุดของ Main Street ฝั่งซ้ายมือ ร้านนี้จะมีเมนูอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งมากมายให้เลือกเลยครับ รวมไปถึงติ่มซำอร่อยๆ ด้วย รสชาติจัดว่าอร่อยถูกปากเลยทีเดียวครับ บรรยากาศด้านในเป็นสไตล์ภัตตาคารจีน มีห้องน้ำอยู่ด้านในสุดของร้าน สะอาดมากครับ

หลังจากเติมพลังกันเต็มอิ่ม ถัดจากร้าน Plaza Inn มา เราก็จะพบกับส่วนของสวนสนุกแล้วครับ ที่แรกที่พี่ช้างเลือกเข้าไปชมคือ Royal Princess Garden สถานที่ในฝันที่เด็กๆ ไม่ควรพลาด เดินเข้ามาด้านในเราจะพบซุ้มดอกไม้ Bibbidi Bobbidi Boutique คุ้นๆไหมว่ามาจากเรื่องอะไร ใครเป็นสาวกเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าจะต้องจำได้แน่นอน ที่นี่เด็กๆ สามารถเปลี่ยนชุดแปลงโฉมเป็นเจ้าหญิงได้ มีโต๊ะจิบน้ำชา และมีมุมถ่ายรูปกับเจ้าหญิงที่ตัวเองชื่นชอบแบบใกล้ชิด และ Exclusive สุดๆ

ในช่วงเวลา 13.30 น. ของทุกวัน ก็จะมีขบวนพาเหรด ไฟลท์ส ออฟ แฟนตาซี (Flights of Fantasy) พาเหรดกลางวันที่ขนทัพเจ้าหญิง และดิสนีย์คาแรคเตอร์มากมายออกมาอวดโฉมให้ทุกคนได้ชม พี่ช้างแนะนำให้มาจับจองที่ก่อนเวลานะครับ จะได้เห็น และเก็บภาพเหล่าคาแรคเตอร์ที่ตัวเองชื่นชอบได้ถนัด

นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่แสดงโชว์พาเหรดน้ำชุดใหม่รับซัมเมอร์ พิกซาร์ วอเตอร์ เพลย์ สตรีท ปาร์ตี้! (Pixar Water Play Street Party!) ที่ขนทัพเหล่าคาแรคเตอร์ขวัญใจทุกคนมาร่วมฉลองความชุ่มฉ่ำ ไม่ว่าจะเป็น มิสเตอร์ แอนด์ มิสซิส อินเครดิเบิ้ล (Mr. and Mrs. Incredible) จากภาพยนตร์ ดิ อินเครดิเบิ้ล (The Incredibles), วูดดี้ (Woody), บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz Lightyear), ทอย สตอรี่ (Toy Story) และเหล่าคาแรคเตอร์อีกมากมาย

พาเหรดนี้พึ่งเริ่มจัดวันแรกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 61 ที่ผ่านมา โดยจะจัดในช่วงประมาณ 16.30 น. ของทุกวัน ไปจนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้เท่านั้น พลาดแล้วพลาดเลยน้า พี่ช้างแนะนำให้มาก่อนเวลาพาเหรดประมาณครึ่งชั่วโมงนะครับ จะได้มาเตรียมจับจองที่นั่งเพื่อใกล้ชิดเหล่าตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ เพราะถ้ามาช้าอาจจะเข้าไม่ถึง เนื่องจากคนเยอะมากๆ ทั้งสองฝั่งของ Main Street เลยครับ ใครมีร่ม หรือชุดกันฝน แนะนำให้พกมาด้วยนะครับ เพราะขึ้นชื่อว่าพาเหรดน้ำ มีเปียกแน่นอน!

อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งโชว์ที่น่าสนใจที่จัดในโซนนี้เช่นกัน คือ พวกเรารักมิคกี้! (We Love Mickey! Projection Show) โชว์ใหม่สุดอลังการทั้งแสง สี เสียง ที่เริ่มโชว์ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 61 ที่ผ่านมา ซึ่งโชว์นี้จะเริ่มต้นจากการฉายภาพเรื่องราวในช่วงเวลาสำคัญของมิคกี้ ตั้งแต่สไตล์คลาสสิคที่ทุกคนคุ้นเคย ไปจนถึงสไตล์โมเดิร์นบนอาคารทั้ง 2 ฝั่งของ Main Street เรียกว่าตรึงตาตรึงใจทุกคนทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่เข้ามาเที่ยวเลยครับ

และจบลงด้วยโชว์เปิดตัวมิคกี้สุดหล่อในชุดสูท ใครที่ชื่นชอบมิคกี้ พี่ช้างขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้ครับ โชว์นี้จะเริ่มประมาณ 19.00 น. ครับ ซึ่งก็ควรมาก่อนเวลาเช่นกัน และจุดที่แนะนำให้มาจับจองพื้นที่คือบริเวณด้านหน้าทางเข้าตรงหัวมุม จุดนี้เป็นจุดที่จะเห็นมิคกี้ในชุดสูทชัดที่สุดครับ

หลังจากโชว์ We Love Mickey จบ ก็จะมีขบวนพาเหรดแสง สี สุดอลังการที่หลายคนรอคอย คือ ดิสนีย์ เพนท์ เดอะ ไนท์ พาเหรด (Disney Paint the Night Parade) ที่ขนทัพคาแรคเตอร์สุดฮอตมาเต้นรำ ร้องเพลง อวดมนตราวิเศษ พาเหรดนี้เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งพาเหรดไฮไลท์ที่ช้างแนะนำให้รอชมเลยครับ โดยระยะเวลาที่พาเหรดเริ่มเคลื่อนขบวน คือ 20.45 น.

โซนที่ 2 Adventureland

เมื่อเดินตรงมาสุด Main Street แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเห็นป้าย Adventureland ชัดเลยครับ โซนนี้ก็ Adventure สมชื่อ มีเครื่องเล่นให้เลือกมากมาย ทั้ง ล่องแพไปสู่บ้านต้นไม้ของทาร์ซาน , ชมบ้านต้นไม้ของทาร์ซาน , ล่องเรือจังเกิลริเวอร์ ครูซ ไปกับกัปตันเรือผู้กล้าหาญ และลิกี้ ทิคกี้ส์ เต้นไปตามจังหวะของผืนป่าที่ออกอมาจากเสาติกิ “ลิกี้” ใครที่ชื่นชอบการผจญภัย แนะนำให้เล่นให้ครบเลยครับ

นอกจากนี้ในโซนนี้ก็ยังมีการแสดงที่อลังการทั้งแสง สี เสียง และเอฟเฟคที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ Festival Of The Lion King ปกติแล้วโชว์นี้จะมีวันละประมาณ 4 รอบ ได้แก่เวลา 12.00 น. , 14.00 น. , 16.30 น. และ 18.00 น. พยายามจัดสรรเวลาดูโชว์กันให้ดีๆ ใครที่มาแล้วพี่ช้างไม่อยากให้พลาดเลยครับ

ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างที่พี่ช้างอยากแนะนำนั่นก็คือ การแสดงชุดใหม่ Moana : A Homecoming Celebration เรียกได้ว่าเป็นโชว์แกะกล่องที่ Exclusive สุดๆ เลยก็ว่าได้ เราทุกคนจะได้สัมผัสกับการผจญภัยข้ามมหาสมุทรแบบในการ์ตูนอย่างใกล้ชิด นักแสดงแต่ละคนเรียกได้ว่าเล่นสมบทบาทมากๆ หลังโชว์จบทุกคนยังสามารถถ่ายภาพคู่กับโมอาน่าตัวเป็นๆ ได้อีกด้วย การแสดงนี้พึ่งเปิดม่านการแสดงเป็นครั้งแรกในวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจะโชว์วันละ 5 รอบ ได้แก่เวลา 12.05 น. , 13.15 น. , 14.30 น. , 16.35 น. และรอบสุดท้ายเวลา 17.50 น. การแสดงแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ใครที่ชื่นชอบโมอาน่าแห่งโมทูนุย พี่ช้างขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้ครับ

นอกจากนี้ผู้ชมยังสามารถเข้าร่วมเล่นเกมส์เพื่อชิงรางวัลสุด Exclusive ที่ไม่มีขายในช็อปอีกด้วย เพราะฉะนั้นต้องมาที่ คาริบูนิ มาร์เก็ตเพลส (Karibuni Marketplace) เลยครับ ในนี้จะมีมุมให้เราได้จับมือถ่ายรูปกับเหล่าตัวการ์ตูนที่เราชื่นชอบ และมีเกมส์ให้ร่วมสนุกมากมาย อาทิเช่น Wheel of Fortune, Blongo Balls และ Plinko พี่ช้างถ่ายภาพของรางวัลมาอวดกันด้วยครับ ขอบอกว่าน่ารักสุดไปเลย

โซนที่ 3 Grizzly Gulch

ถัดมาจากโซนผจญภัย เราก็จะพบกับ Grizzly Gulch ซึ่งเป็นโซนไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ เพราะมีแค่ที่เดียวในโลกครับ สร้างมาตั้งแต่ปี 2012 เป็นเครื่องเล่นที่เรียกว่าใครมาฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ต้องห้ามพลาด คือ บิ๊ก กริซลีย์ เมาท์เทน รันอะเวย์ ไมน์ คาร์ส (Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars) เครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดในแดนตะวันตก เราจะได้นั่งรถเหมืองพุ่งตัวไปตามความมืดมิดของอุโมงค์ เพื่อตามหาทองคำ เครื่องนี้ไม่ได้หวาดเสียวอย่างที่คิด แต่ความสนุกถือว่าเกินคาดครับ สำหรับเครื่องนี้ผู้เล่นต้องมีความสูง 112 เซนติเมตรขึ้นไปนะครับ

นอกจากนี้ก็จะมี ไกเซอร์ กัลซ์ โซนน้ำพุร้อนจำลองที่ให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และมุมจำลองร้านตีเหล็ก และร้านขายของแห้ง ที่มีเครื่องปั๊มน้ำฉีดใส่กัน เป็นโซนสงครามน้ำเล็กที่เด็กๆ ชอบกันมากเลยครับ

โซนที่ 4 Mystic point

เมื่อเดินผ่านมาก็จะพบกับคฤหาสน์ Mystic Manor พิพิธภัณฑ์สำหรับชุดของสะสมงานศิลปะและวัตถุโบราณที่รวบรวมมาได้โดยสมาชิกทีมของลอร์ดเฮนรี่ สมาคมนักสำรวจและนักผจญภัย (S.E.A.) และเจ้าลิงน้อย Albert ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่าน ท้าทายทุกคนที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมชม โซนนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโซนไฮไลท์ของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ครับ เพราะมีแค่ที่เดียวในโลกเท่านั้น เปิดมาตั้งแต่ปี 2013 ครับ

มาถึงแล้วเราก็จะเห็นทางเข้าคฤหาสน์เขียนว่า Mystic Manor ก็สามารถเดินตรงเข้าไปได้เลยครับ เราจะได้นั่งรถ The Mystic Magneto-Electric Carriage เพื่อชมของสะสมของลอร์ดเฮนรี่ มิสทิคครับ โดยมีเจ้าลิงน้อย Albert เป็นคนพาเข้าสู่โลกการผจญภัย เพราะ Albert ดันไปเปิด Music Box ลึกลับที่ท่านลอร์ดกำชับนักหนาว่าห้ามยุ่ง งานนี้แสง สี เสียงและเอฟเฟคก็ไม่ผิดหวังอีกเช่นเคย เครื่องนี้แนะนำให้เล่นกันคนละ 2 รอบเลยครับ เพราะรถเลื่อนจะออกพร้อมกันรอบละ 2 คัน และแต่ละคันเราจะเห็นมุมมองที่ต่างกันครับ

ถัดมาระหว่างทางเดิน เราก็จะสังเกตเห็นแผ่นป้ายมากมาย ซึ่งมีกงล้อสีทองตั้งอยู่ตรงกลาง หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าคืออะไร มุมนี้คือ การ์เด้น ออฟ วันเดอร์ (Garden of Wonder) ครับ เป็นสวนหย่อมที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่สร้างจากภาพลวงตา 3 มิติ ซึ่งวิธีการดูแต่ละแผ่นป้าย จะมีวิธีการสอนอยู่ทางด้านข้างครับ เดินผ่านแล้วต้องลองแวะเข้ามาเล่นกัน

สำหรับใครที่อยากได้เจ้าลิงน้อย Albert กลับบ้าน พี่ช้างแนะนำให้ซื้อจากช็อปในนี้ไปเลยนะครับ เพราะโซน Main Street , U.S.A. ไม่มีจำหน่ายครับ Exclusive เฉพาะที่ช็อปนี้เท่านั้น

โซนที่ 5 Toy Story Land

เดินเลยจากโซน Mystic point เราก็จะมาพบกับ Toy Story Land โซนนี้จะเป็นโซนที่จำลองสวนหลังบ้านของ Andy เมื่อเดินเข้ามาจะเหมือนเรากำลังย่อส่วนเลยครับ ทุกสิ่งรอบตัวดูใหญ่ไปหมด ทั้งปากกา ดินสอ ของเล่นต่างๆ โซนนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2011 ถือว่าเป็น Toy Story Land ที่แรกของดิสนีย์แลนด์ในเอเชียเลยครับ ของเล่นต่างๆ ในโซนนี้ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกันดีจากในการ์ตูนมาแล้ว

เริ่มกันที่เครื่องแรกที่เราเดินเข้ามาแล้วเห็นเลยก็คือ ทอย โซลเจอร์ พาราชู้ต ดรอป (Toy Soldier Parachute Drop) ทิ้งตัวจากท้องฟ้าในการฝึกกระโดดร่ม สำหรับเครื่องนี้ผู้เล่นต้องสูง 81 เซนติเมตรขึ้นไปนะครับ

ถัดมาก็จะพบกับ สลิงกี้ ด็อก สปิน (SLINKY DOG SPIN) ขึ้นขี่บนสลิงกี้ ด็อก เจ้าหมาสปริงสลิงกี้ก็จะวิ่งไล่จับหางตัวเองไปเรื่อยๆ

และอีกเครื่องไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ อาร์ซี เรสเซอร์ (RC Racer) รถบังคับคันโปรดของ Andy ทุกคนจะได้นั่งอาร์ซีเพื่อจำลองการแข่งรถที่มีความสูงถึง 27 เมตร ใครที่ชื่นชอบความตื่นเต้นก็ต่อคิวลองกันได้เลยครับ แต่เครื่องนี้ผู้เล่นต้องสูง 120 เซนติเมตรขึ้นไปนะครับถึงจะเล่นได้

โซนที่ 6 Fantasyland

เดินถัดจากไร่ข้าวโพดของ Andy มา เราก็จะพบกับโซนที่หลายๆ คนชื่นชอบ นั่นก็คือ Fantasy Land โซนนี้เรียกได้ว่าเป็นโซนขวัญใจของเด็กๆ เลยครับ เพราะเครื่องเล่นแต่ละเครื่องเรียกได้ว่าน่ารัก สดใส มีเหล่าตัวการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น Winnie the Pooh, Mickey Mouse, Minnie Mouse, Dumbo และอีกมากมาย
โซนนี้จะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมให้ทำเยอะที่สุดใน 7 โซนของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เลย ได้แก่ มิกกี้ ฟิลาร์เมจิก, ป่าเทพนิยาย สวนที่สร้างขึ้นจากหนังสือนิทาน, ช้างบินดัมโบ้ตัวน้อย นั่งช้างดัมโบ้โบยบินทะยานขึ้นฟ้า, ม้าหมุนซินเดอเรลล่า, ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เรลโร้ด-สถานีแฟนตาซีแลนด์, แฟนตาซีการ์เด้นส์ สวนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Fantasia (1940), แมด แฮตเทอร์ ที คัพส์ นั่งในถ้วยชาหมุนเหวี่ยงตามจังหวะเสียงดนตรี, มิกกี้กับหนังสือนิทานวิเศษ (Mickey and the Wondrous Book) , การผจญภัยของวินนี่ เดอะ พูห์ เดินทางไปในหนังสือนิทานท่องผ่านป่าร้อยเอเคอร์ในโถน้ำผึ้งขนาดยักษ์ และ อิทส์ อะ สมอล เวิลด์ นั่งเรือท่องไปทั่วโลก ชมความสวยงาม วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ

 

เครื่องเล่นไฮไลท์ที่พี่ช้างอยากแนะนำเลยว่าห้ามพลาดก็คือ มิกกี้ ฟิลาร์เมจิก (Mickey Philhar Magic) โรงภาพยนตร์ 3 มิติที่นำแสดงโดยโดนัลด์ดั๊ก ท่องไปกับฉากสุดคลาสสิคจากการ์ตูนดังถึง 5 เรื่อง ได้แก่ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร , เงือกน้อยผจญภัย , เดอะไลออนคิง , ปีเตอร์แพน และ อะลาดิน แน่นอนว่าเอฟเฟคทางฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ก็จัดเต็มอีกเช่นเคย เพราะนอกจากภาพจะทะลุจอออกมาแล้ว ยังมีควัน และน้ำ กระเด็นมากระทบใบหน้าทำให้รู้สึกล่องลอยสู่ห้วงการผจญภัยอีกด้วย

เครื่องเล่นยอดฮิตอีกเครื่อง คือ การผจญภัยของวินนี่ เดอะ พูห์ (The Many Adventures of Winnie the Pooh) เราจะได้นั่งในโถน้ำผึ้ง และท่องโลกหนังสือนิทานสุดคลาสสิคของ เอ.เอ. มิลน์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของวินนี่ เดอะ พูห์ เครื่องเล่นนี้ปกติคนจะต่อคิวกันเยอะมาก แนะนำให้กดตั๋ว FASTPASS ไว้รอเลยครับ จะได้ไม่เสียเวลาในการต่อคิว เครื่องนี้เป็น 1 ใน 3 เครื่องเล่นทั้งหมดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่มีให้กดตั๋ว FASTPASS ล่วงหน้า เพราะคนต่อคิวเล่นเยอะมากครับ

และอีกไฮไลท์ที่ต้องชม คือ การแสดง มิกกี้กับหนังสือนิทานวิเศษ (Mickey and the Wondrous Book) โชว์สุดอลังการระดับบรอดเวย์ ที่นำเสนอเรื่องราวของเทพนิยายทั้ง 7 เรื่อง ทั้ง The Jungle Book , The Little Mermaid , Tangled , Brave , Aladdin , The Princess and the Frog และ Frozen การแสดง นำแสดงโดย 3 คาแรคเตอร์สุดฮอต ได้แก่ Mickey Mouse , Goofy และ Olaf รอบการแสดงจะมีวันละ 6 รอบ ได้แก่ 11.15 น. , 12.30 น. , 13.45 น. , 16.30 น. , 18.00 น. และ 19.15 น. ครับ

สำหรับใครที่อยากถ่ายรูปกับปราสาทเจ้าหญิง ตอนนี้ปราสาทเจ้าหญิงกำลังปรับโฉมใหม่ โดยจะรวบรวมเรื่องราวเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 13 คนเอาไว้ ซึ่งคาดว่าหากเสร็จเรียบร้อยแล้วคงจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เลยครับ

โซนที่ 7 Tomorrowland

มาถึงโซนสุดท้ายที่หลายๆ คนชื่นชอบ คือ Tomorrowland เมืองแห่งอนาคตที่รวบรวมเหล่าวิทยาการ และเทคโนโลยีล้ำหน้าเอาไว้มากมายครับ ในโซนนี้ก็มีเครื่องเล่นน่าสนใจที่เป็นไฮไลท์หลายเครื่องเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ไฮเปอร์สเปซ เมาท์เทน (Hyperspace Mountain), กองบัญชาการ สตาร์ วอร์ส (STAR WARS™ Command Post) พบกับฮีโร่สุดยิ่งใหญ่แห่งตำนานการผจญภัยสตาร์ วอร์ส, ออร์บิทรอน (Orbitron) บังคับจานบินเหนือน่านฟ้า Tomorrowland, การฝึกของเจได : ไทรอัล ออฟ เดอะ เทมเปิล (Jedi Training) ชมการฝึกของมือใหม่ในวิถีของ The Force เพื่อปราบ The Dark Side, Iron Man Experience ทะยานขึ้นเหนือเมืองฮ่องกงกับไอรอนแมน เพื่อต่อสู้กับไฮดร้า และ Iron Man Tech Showcase กระทบไหล่และถ่ายภาพกับไอรอนแมนตัวเป็นๆ
สำหรับเครื่องเล่นที่พี่ช้างจะมาแนะนำว่าห้ามพลาด คือ Iron Man Experience เครื่องเล่นที่มาในธีมมาร์เวลเครื่องแรกของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ที่จำลองศูนย์บัญชาการของ Stark industries เอาไว้ ระหว่างทางที่เดินเข้าไปก็จะได้ชมภาพเทคโนโลยีสุดไฮเทคมากมาย เมื่อเดินสุดทางเราก็จะได้เข้าไปนั่งในยานเพื่อสู้รบแบบ 3 มิติกลางเกาะฮ่องกงไปกับไอรอนแมน

 

เครื่องนี้เป็นอีกเครื่องที่มีคนต่อคิวเยอะมาก ดังนั้นพี่ช้างแนะนำให้ไปกดตั๋ว FASTPASS ไว้ก่อน เพื่อจะได้ประหยัดเวลาในการต่อแถวนะครับ เครื่องนี้ผู้เล่นต้องสูง 102 เซนติเมตรขึ้นไปครับ

หลังจากเดินออกมาจากเครื่องเล่น แนะนำให้รีบต่อแถวเข้า Iron Man Tech Showcase ที่นำเสนอโดย Stark industries เลยครับ เราจะได้เข้ามากระทบไหล่กับ Iron Man ตัวเป็นๆ

ถัดมาที่เครื่องเล่นยอดฮิตไม่แพ้กันคือ ไฮเปอร์สเปซ เมาท์เทน (Hyperspace Mountain) ทะยานสู่ใจกลางการสู้รบของสตาร์ วอร์ส เครื่องนี้จะเป็นรถไฟเหาะที่เน้นความรวดเร็ว โฉบเฉี่ยว ดังนั้นผู้เล่นต้องมีส่วนสูง 102 เซนติเมตรขึ้นไป สำหรับเครื่องนี้ก็เป็นอีก 1 ใน 3 เครื่องเล่นของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่มีตั๋วแบบ FASTPASS ให้กดฟรี เมื่อเดินเข้ามาในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์พี่ช้างแนะนำให้มากดตั๋วรอเลยครับ และค่อยกลับมาตามเวลาที่แจ้งบนตั๋ว เพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องเล่นที่คนต่อคิวเล่นเยอะมากอีกเครื่องหนึ่งเลยครับ

นอกจากนี้ก็จะมีอีกหนึ่งโชว์ที่น่าสนใจ คือการฝึกของเจได : ไทรอัล ออฟ เดอะ เทมเปิล (Jedi Training) ชวนเด็กๆ มาสะบัดเสื้อคลุมต่อสู้กับเหล่าตัวร้ายทั้งดาร์ธ เวเดอร์ และ The Seventh Sister Inquisitor ผู้ที่จะเข้าร่วมการฝึกได้ต้องมีอายุระหว่าง 4 – 12 ปีครับ ใครที่อยากฝึก ต้องลงทะเบียนที่ สเปซ เทรดเดอร์ (Space Trader) ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากไฮเปอร์สเปซ เมาท์เทน โดยรอบการฝึกจะแบ่งออกเป็น 6 รอบต่อวัน ได้แก่เวลา 11.45 น. , 13.00 น. , 14.30 น. 15.45 น. , 17.00 น. และ 18.15 น.

เมื่อมาถึงโซน Tomorrowland แล้ว พี่ช้างแนะนำให้แวะ สตาร์ไลเนอร์ ไดเนอร์ เลยครับ มีแฮมเบอร์เกอร์ไอรอนแมนให้รับประทานรองท้องด้วย