เที่ยว 7 ประเทศ ล่าแสงเหนือ ประสบการณ์ที่ต้องสัมผัส
อะไรจะเจ๋งไปกว่าการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นอนมองฟ้าที่สร้างสรรค์แสงสวยๆ นี้ !
แสงเหนือหรือแสงออโรร่า ( Northern Lights or Aurora Borealis ) เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้า ที่มีแสงเรืองๆ สีสวย เป็นแถบสีต่างๆ บนท้องฟ้าในเวลากลางคืน ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากใฝ่ฝันจะได้ไปเห็นสักครั้งในชีวิต ความมหัศจรรย์ของลำแสงสีเขียว ซึ่งบางครั้งก็เป็นสีแดงและสีม่วงที่พลิ้วไหวพาดผ่านท้องฟ้า สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์ที่ควรหาโอกาสไปสัมผัสให้ได้สักครั้งครับ การจะได้ชมแสงเหนือนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลา และต้องอาศัยดวงด้วย ถึงแม้จะมีการพยากรณ์การเกิดแสงเหนือ แต่ถ้าท้องฟ้าปิด ก็ไม่ได้เห็นเช่นกัน นอกจากการประเทศ ทำเลที่ตั้ง ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหลายตัวแปร เช่น สภาพอากาศ ท้องฟ้าต้องปลอดโปร่ง อุณหภูมิ วันเวลาต่างๆ และค่าของพายุสุริยะ ( Solar Storm ) ที่เรียกว่าค่า Auroral Activity ซึ่งยิ่งสูงโอกาสที่เห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าก็จะมีมากขึ้น รวมถึงสถานที่ที่จะทำให้เราสามารถสังเกตแสงเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นครับ
ถ้าพูดถึงแสงเหนือ ประเทศไอซ์แลนด์และฟินแลนด์เป็นสถานที่แรกๆ ที่หลายๆคนมักนึกถึง แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายที่ที่สามารถไปชมแสงเหนือหรือออโรร่าได้ครับ ซึ่งจะพบเห็นได้ในแถบขั้วโลกเหนือ และในช่วงฤดูหนาว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปชมแสงเหนือคือช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงมีนาคม
และนี่คือ 7 สถานที่ที่ได้รับการจัดอันดับจาก National Geographic ว่าเหมาะสำหรับการออกไปล่าแสงเหนือ มีที่ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย
Sweden
ประเทศสวีเดนเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทางสำหรับนักล่าแสงเหนือทางตอนเหนือสุดของประเทศ หรือ Lapland ของประเทศสวีเดนนั้น เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการชมแสงเหนือหรือแสงออโรร่าแบบตระการตา โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบที่สวยงาม ในสวีเดนนั้นได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่าเป็นจุดชม แสงเหนือ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง สถานที่สำหรับชมแสงเหนือที่มีชื่อเสียงของประเทศสวีเดนมีอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น Aurora Sky Station สถานีชมแสงเหนือในอุทยานแห่งชาติอาบิสโก้ Torneträsk Lake ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีความยาวถึง 70 กม. ใกล้ๆกับอุทยานแห่งชาติอาบิสโก้ ที่มีท้องฟ้าโปร่งๆเหมาะสำหรับการชมแสงเหนือเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า นักท่องเที่ยวที่อยากไปล่าแสงเหนือต้องไม่พลาดที่นี่เลย รวมทั้ง Kiruna หมู่บ้านทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน ที่เป็นเสมือนกับประตูที่เชื่อมต่อกันระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งถ้าหากเราขับรถออกมาจากนอกเมืองเพียงนิดเดียว เราก็จะสามารถสังเกตเห็นแสงเหนือได้ง่ายๆเลยครับ
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
Finland
ฟินซะยิ่งกว่าฟิน ที่ ฟินแลนด์ ฟินแลนด์เป็นประเทศที่คนนิยมไปดูแสงเหนือมากที่สุด นอกจากจะมีระบบการศึกษาที่อยู่แนวหน้าของโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อย่างภูเขา ทะเลสาบ ให้ได้ไปเที่ยวชิล ๆ ไม่รู้จบ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฟินแลนด์ก็คือ การมาชมแสงเหนือ โดยเฉพาะภูมิภาค Lapland ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศฟินแลนด์ จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปรอชมแสงเหนือกันอย่างคับคั่งในแต่ละปี ยังมีโรงแรมบางแห่งสร้างที่พักเป็นแบบ Glass Igloos เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นอนชมแสงเหนือกันอย่างจุใจได้ทุกค่ำคืน และถ้าได้ขึ้นไปทางตอนเหนือของฟินแลนด์ จะยิ่งเพิ่มโอกาสดีๆ ให้เราได้เห็นแสงเหนือเพิ่มมากขึ้น ที่ที่คนนิยมไปมากก็คือ ที่ Hotel Aurora โรงแรมที่มีกิมมิกดีๆ อย่างเมื่อเริ่มมีแสงเหนือมาให้เห็น ทางโรงแรมจะกดปุ่มสัญญาณเตือนให้ดังขึ้นทั้งโรงแรม เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสดีๆ ที่จะได้เห็นความสวยงามของแสงเหนือ ใครมีทุนทรัพย์เอื้ออำนวย ก็จัดไปเลยครับ สักครั้งในชีวิต ^^
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: ช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิกับใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม และมีนาคมถึงเมษายน จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
Iceland
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เหล่านักล่าแสงเหนือหรือแสงออโรร่าไม่ควรพลาดเลยครับ ประเทศนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและไร้มลพิษ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจสุด ๆ ที่นี่สมือนจุดยุทธศาสตร์ในการชมแสงเหนือ เราสามารถเห็นแสงเหนือไอซ์แลนด์ได้โดยไม่ต้องขับรถไปไกลจากเมืองหลวง Reykjavik หรือใครเลือกที่จะอยู่ชมแสงเหนือในตัวเมืองก็ได้ แต่จะไม่ชัดเท่าไหรนะครับ จริงแล้วที่ไอซ์แลนด์แทบไม่ต้องเสียเวลาออกไปตามล่าหาแสงเหนือใดๆ เพราะเป็นประเทศที่เราจะสามารถมองเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้แทบทุกที่ในไอซ์แลนด์เลยทีเดียว จุดที่น่าสนใจก็คือ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) รับรองว่าแสงเหนือที่เห็นจะสวยกว่าทุกที่แน่นอน รับรองจะได้เห็นปรากฎกาณ์แสงเหนือที่สวยงามโพสลงโซเชียลให้เพื่อนๆอิจฉาได้อย่างแน่นอน
อีกจุดที่สำคัญคือ Kirkjufell Mountain เป็นภูเขารูปร่างสวยงามแปลกตา บริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม รวมทั้งน้ำตกที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร ถ้าใครโชคดีได้เห็นแสงเหนือพอดิบพอดีในจุดนี้ ตายตาหลับแน่นอน
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม – ต้นเดือนเมษายน จะเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
Alaska
อะแลสกา เป็นอีกหนึ่งจุดที่อยู่ในแนวของการเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมแสงเหนือ ก็คือ เมือง Fairbanks เพราะที่นี่เป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของที่นี่ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และยังสามารถมองเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณตัวเมือง ไม่ต้องขับรถไปไกลไปนอกเมือง ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าใครอยากได้วิวสวย ๆ ก็ต้องขับรถไปหามุมถ่ายรูปบริเวณนอกเมืองครับ แต่ถ้าใครอยู่ในเขตที่เรียกว่า “The Zone” การันตีได้เลยว่าเราจะได้พบกับ”แสงเหนือ” อย่างแน่นอนครับ เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการรับชมแสงเหนือ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่เมืองนี้จะมีระบบพยากรณ์แสงเหนือเป็นของตัวเอง
จุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุด : Anchorage, Fairbanks, Denali, the Yukon
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม – กลางเดือนเมษายน
Canada
ประเทศแคนาดา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากมีโอกาสไปเยือนที่นี่ บอกเลยว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันสวยงามราวกับดินแดนในฝัน ทั้งน้ำตกไนแองการ่า, ทะเลสาบเลค หลุยส์, เทือกเขาร็อกกี้ เมาน์เทน เป็นต้น แต่ที่อลังการขั้นสุดก็คือ ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือออโอร่า (Aurora) ที่จะสามารถพบเห็นได้ทางภูมิภาคทางด้านเหนือของประเทศ โดยเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ เมืองเยลโลว์ ไนฟ์ (Yellowknife) เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่จะไปล่าแสงเหนือในแคานาดา ลำแสงที่คุณจะได้เห็นนั้นไม่ได้มีเพียงสีเขียว แต่จะมีเฉดสีม่วงและแดงด้วย เราจะได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำบนฟากฟ้าเหนือยอดสน ท่ามกลางอากาศที่ติดลบ เป็นความประทับใจที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสครับ
นอกจากนี้เราจะสามารถมองเห็นแสงเหนือในแคนาดาได้ที่ ทะเลสาบพริสไทน์ (Pristine Lake) ทางด้านเหนือของ ออนทาริโอ (Ontario) และเมืองเล็กอย่าง ทุนดรา (Tundra) แถมยังมองเห็นได้ไกลๆ ไปถึงชายแดนของอเมริกาอีกด้วยครับ เมืองหลวงแห่งฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือแห่งนี้ ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบ Great Slave Lake ซึ่งที่นี่จะมีหมู่บ้านสำหรับการล่าแสงเหนือโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาตามล่าแสงนี้ให้บริการอีกด้วย โดยสถานที่ยอดนิยมได้แก่ Wood Buffalo และอุทยานแห่งชาติ Jasper
จุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุด : Calgary, Ontario, Yukon Territory, Manitoba
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: กลางเดือนสิงหาคม – ปลายเดือนเมษายน
Norway
ประเทศนอเวย์ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่าแสงเหนือ เพราะอยู่ในเขต Arctic Circle โดยเมืองที่จะสามารถชมแสงเหนือได้อย่างอลังการจะอยู่บริเวณเมือง Tromso ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของประเทศ ที่นี่สวยงามด้วยวิวของทิวเขา ป่าสน และทะเลนอร์วีเจียน อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ใครจะไปล่าแสงเหนือที่นี่ ต้องเตรียมความพร้อมเสื้อผ้าดีดีนะครับ โดยเราจะสามารถเห็นแสงได้จากหมู่บ้าน Ersfjordbotn ที่มีความป๊อปปูล่ามากที่สุดสำหรับที่นี่ แถมนอร์เวย์ก็ยังมีที่อื่นๆ ให้ได้เที่ยวต่อกันเยอะแยะเลยครับ มาทั้งทีให้ให้คุ้ม
จุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุด : Tromso, Alta, Svalbard, Finnmark
เวลาที่เหมาะแก่การไปรับชม: กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนมีนาคม
Scotland
จริงๆ แล้ว สก๊อตแลนด์ อาจจะไม่ใช่ที่เหมาะในการดูแสงเหนือครับ เพราะใกล้ทะเล อาจจะมีลมทำให้ท้องฟ้าปิด แต่หากวันไหนอากาศดีๆ ท้องฟ้าเปิด ก็จะสวยงามมากครับ การเดินทางไปไม่ยากมาก แม้ว่าส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องพายุ หมอก และเมฆ อย่างสก็อตแลนด์จะไม่ใช่ที่ๆเหมาะแก่การดูท้องฟ้ามากนัก แต่ในช่วงฤดูหนาวที่ฟ้าเริ่มเปิดที่นี่คืออีกหนึ่งแห่งที่จะมอบโอกาสชม”แสงเหนือได้เป็นอย่างดีเลย
จุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุด : Aberdeen, Isle of Skye, Northern Highlands, Dunnet Head
เป็นภาพในฝันที่ใครหลายคนต้องอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองอย่างแน่นอน ถ้ามีความฝันอยากเห็นแสงเหนือกันสักครั้งในชีวิต ต้องรีบหาโปรจากพี่ช้างได้แล้วครับ วางแผนกันยาวๆ คุ้มค่าแน่นอนครับ
ติดตามอัพเดตโปรโมชั่นต่างๆและข่าวสารได้ที่
>>Facebook: https://m.facebook.com/ch.trixget
>>Line Official: @changtrixget
>>Instragram:https://instagram.com/changtrixget?utm_source=ig_profile_share&igshid=b9okxcb0de70
>>Twitter: https://twitter.com/ChangTrixget?s=06