เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
รายละเอียด เที่ยวฮอกไกโด
จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) คือเกาะทางเหนือของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเลยก็ว่าได้ เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีเขตการปกครองที่กว้างใหญ่ที่สุดมีสิ่งที่ขึ้นชื่ออย่างอาหารทะเลที่สดใหม่และด้วยท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ กุ้ง หอย ปู ปลา จึงมีขนาดใหญ่มาก ๆ และในช่วงฤดูหนาว จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) มีอากาศหนาวเย็น มีหิมะตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – เมษายน ทำให้ฮอกไกโดมีลานสกี หรือ รีสอร์ทสกี ที่สามารถเล่นสกี / สโนว์บอร์ด ที่มีชื่อติดอันดับต้น ๆ ของโลกเพราะมีหิมะที่ดีแบบมีคุณภาพ และยังมีเทศกาลน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุก ๆ ปี และในช่วงฤดูร้อนจะได้พบกันวิวทิวทัศน์ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหรือวาดภาพเป็นอย่างยิ่ง และรอบตัวยังเต็มไปด้วยทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกพิงค์มอสและทุ่งลาเวนเดอร์ เป็นต้น เนื่องจากเขตเมืองฮอกไกโด ค่อนข้างกว้าง และมีหลายจังหวัด เราควรที่จะวางแผนไป เที่ยวฮอกไกโด แบบละเอียด เพราะเส้นทางการเดินทางนั้นค่อนข้างใช้เวลา และรถไฟมีจำนวนจำกัด
การเดินทางสู่จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
เที่ยวบินจาก JAPAN AIRLINES
ตารางเที่ยวบิน
กรุงเทพฯ ไปที่ ซัปโปโร
|
||||
ออกเดินทาง
|
ถึงปลายทาง
|
เที่ยวบิน
|
ระยะเวลา
|
|
22:55 กรุงเทพฯ (นานาชาติสุวรรณภูมิ)
|
06:05+1 วันถัดไป โอซาก้า (นานาชาติคันไซ)
|
JL728 | 10h15m | |
08:15+1 นถัดไป โอซาก้า (นานาชาติคันไซ)
|
10:10+1 วันถัดไป ซัปโปโร (นิวชิโตเสะ)
|
JL6153 |
ซัปโปโร ไปที่ กรุงเทพฯ
|
||||
ออกเดินทาง
|
ถึงปลายทาง
|
เที่ยวบิน
|
ระยะเวลา
|
|
07:50 ซัปโปโร (นิวชิโตเสะ)
|
09:35 โตเกียว (นานาชาตินาริตะ)
|
JL3040 | 10h15m | |
08:15+1 วันนถัดไป โอซาก้า (นานาชาติคันไซ)
|
16:05 กรุงเทพฯ (นานาชาติสุวรรณภูมิ)
|
JL717 |
JAPAN AIRLINES มีเที่ยวบินจากเมืองไทยไปลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 10 ชม. 15 น. และมีศูนย์กลางการเดินทางอยู่ที่สถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ซึ่งจะมีรถไฟฟ้าหรือรถบัสวิ่งไปยังเมืองต่าง ๆ อีกด้วย
เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
1.เมืองซัปโปโร (Sapporo)
เป็นสถานที่หลักของการเไป เที่ยวฮอกไกโด และเป็นสถานที่ใหญ่ที่สุดในห้าเมืองของประเทศญี่ปุ่น ซัปโปโรยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีอายุน้อยที่สุดของประเทศอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2400 ประชากรของเมืองมีจำนวนเพียงแค่ 7 คนเท่านั้นในช่วงเริ่มต้นของยุคเมจิเมื่อการพัฒนาของ จังหวัดฮอกไกโด ได้เริ่มขึ้นในระดับนึง Sapporo ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมาขึ้นยกตัวอย่าง เช่น โรงเบียร์แห่งแรกในญี่ปุ่น สวนโอโดริและหอนาฬิกาประจำเมือง รัฐบาลฮอกไกโด และตรอกราเมงอันโด่งดัง เป็นต้น ซัปโปโรกลายมาเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้เพราะมีการจัดกีฬาโอลิมปิกในช่วงฤดูหนาวที่ตัวเมืองซัปโปโร (Sapporo) ในปีพ. ศ. 2515
สถานที่แนะนำในเมืองซัปโปโร (Sapporo)
สวนโอโดริ (Odori Park) คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองซัปโปโรเพราะสวนโอโดริมีเหล่าพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเทศกาลที่จัดขึ้น สวนโอโดริยังเป็นโอเอซิสของย่านออฟฟิศที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยดอกไลแล็คและต้นเอล์มญี่ปุ่น 92 สายพันธุ์และมีมากกว่า 4,700 ต้น
- การเดินทาง สวนสาธารณะโอโดริ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Odori Subway Station เดินจาก JR Sapporo Station ไปประมาณ 10 นาทีสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายของซัปโปโร เชื่อมต่อกับสถานี Odori Subway Station ทั้งหมด
- เวลาเปิด-ปิด จะแบ่งเป็น 2 ช่วงนะครับ 00 – 22.00 น. (ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนตุลาคม) 09.30-21. 30 (กลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนเมษายน)
- ค่าเข้าชม 720 เยน
ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building) เป็นสถานที่ที่มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ถึง 80 ปี และมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก รัฐบาลเก่าฮอกไกโดเป็นสิ่งที่ก่อสร้างขึ้นมาในรูปแบบสไตล์อเมริกัน นีโอบาร็อค ถูกสร้างขึ้นในปี 1888 ซึ่งถูกออกแบบเพื่อทนกับความหนาวเย็นและในช่วง ปี 1909 รัฐบาลเก่าฮอกไกโดได้ถูกไฟไหม้จากถายในทั้งหมดแต่ยังคงเหลือกำแพงอยู่ ต่อมาได้มีการฟื้นฟูอย่างสุดความสามารถจนกายมาเป็นสภาพอย่างในปัจจุบัน
- การเดินทาง Subway Namboku Line Toho Line · JR Line ลงที่สถานี “Sapporo” เดินไปอีก 8 นาที/Subway Namboku Line, Tozai Line, Toho Line ลงที่สถานี “Odori” เดินไปอีก 9 นาที
- เวลาเปิด-ปิด 8:45-18:00
- ค่าเข้าชม ฟรี
2.เมืองโอตารุ ( Otaru )
เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพราะว่าตัวเมืองอยู่ไม่ไกลจากซัปโปโรสามารถเดินทางไปได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที เสน่ห์ของเมือง โอตารุ ( Otaru ) คือทัศนียภาพเทือกเขาที่ล้อมรอบงดงามราวกับเป็นเมืองแห่งเทพนิยายและบ้านเรือนยังคงอนุรักษ์ตามลักษณะดั้งเดิมแต่โบรราณรวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ เด่น ๆ
สถานที่แนะนำในเมืองโอตารุ ( Otaru )
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะว่ามีบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่และวิถีชีวิตชาวเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ตึกอาคารรอบ ๆ ให้ดูคงเดิม คลองโอตารุ (Otaru Canal) แห่งนี้มีความยาวถึง 1,140 เมตร มีการตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์วิคตอเรียนอยู่ทั้งสองฝั่งของถนน กิจกรรมที่โดดเด่นคือการล่องเรืองชมวิวคลองโอตารุ และเทศกาลเป็นจำปีอย่าง เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ(Otaru Snow Light Path Festival) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 500,000 คนที่มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะมีการจุดเทียนและเปิดไฟทั่วทั้งบริเวณ
- การเดินทาง จากสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 10 นาที
- เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:30 – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 31 ธันวาคม – 5 มกราคม)
- ค่าเข้าชม ฟรี
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum) เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองโอตารุสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 ด้วยโครงสร้างที่เป็นอิฐแดงดูแปลก ๆ และไม่เหมือนใครทำให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก จุดสังเกตของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษที่เหลือเพียง 2 เรือนในโลกเท่านั้นและยังมีร้านจำหน่ายกล่องดนตรีสามารถที่จะสั่งทำตุ๊กตาแบบไหนหรือสีอะไรก็ได้ร้านจำหน่ายกล่องดนตรีแหล่งนี้รับทำได้หมดและยังสามารถใส่เพลงที่ต้องการได้อีกด้วย
- การเดินทาง จากสถานีรถไฟมินามิ โอตารุ (Minami Otaru Station) เดินเท้าต่อใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:00 น. (เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และวันก่อนวันนักขัตฤกษ์ในช่วงฤดูร้อนปิด 19:00 น. และวันศุกร์ เสาร์ และวันก่อนวันนักขัตฤกษ์ในเดือนกันยายนปิด 18:30 น.)
- ค่าเข้าชม ฟรี
3.เมืองฟุราโนะและบิเอ (Furano – Biei)
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางของจังหวัดฮอกไกโดจึงทำให้ถูกเรียกว่า “สะดือของฮอกไกโด” เมืองฟุราโนะและบิเอ (Furano – Biei) เป็นสถานที่มีความอุดมสมบูรณ์ รอบตัวเมืองยังมีภูเขาขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาโทกาจิในกลุ่มภูเขาไฟไดเซ็ทสึซัน ภูเขาอาชิเบ็ทสึ และภูเขายูบาริ เป็นต้น และที่นี่ยังมีกิจกรรมอย่างการเดินเขาและล่องแก่งในฤดูใบไม้ผลิหรือจะเป็นกีฬาฤดูหนาว เป็นต้น
สถานที่แนะนำในเมืองฟุราโนะและบิเอ (Furano – Biei)
ฟาร์มโทมิต ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อันกว้างใหญ่แถมภายในนั้นยังมีทั้งเรือนกระจก และป่าไม้รวมทั้งสิ้น 13 แห่ง นักท่องเที่ยวสามารถชมทุ่งดอกไม้และพืชพรรณต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนถึงปลายเดือนตุลาคม เสน่ห์ของฟาร์มก็คือ “ทุ่งดอกลาเวนเดอร์แบบดั้งเดิม” นั่นเอง พันธุ์ลาเวนแดอร์ของที่นี่ก็คือลาเวนเดอร์อีสท์ (Lavender East) ที่นี่มีลาเวนเดอร์อีสท์ถึง 90,000 ต้นถูกปลูกเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
- การเดินทาง จากสถานีรถไฟมินามิ โอตารุ (Minami Otaru Station) เดินเท้าต่อใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:00 น. (เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และวันก่อนวันนักขัตฤกษ์ในช่วงฤดูร้อนปิด 19:00 น. และวันศุกร์ เสาร์ และวันก่อนวันนักขัตฤกษ์ในเดือนกันยายนปิด 18:30 น.)
- ค่าเข้าชม ฟรี
สระสีฟ้า (Blue Pond) แห่งบิเอฟุระโนะ (Biei-Furano) เป็นสระน้ำธรรมชาติที่เกิดจากแร่ธาตุธรรมชาติมาละลายในน้ำทำให้สระน้ำเป็นสีฟ้า จึงทำให้เกิดการสะท้องของต้นไม้ใบหญ้าลงบนสระแห่งนี้ จึงเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชมความสวยงามชวนพิศวง และในฤดูหนาวก็ยังคงงดงามไม่แพ้กันเพราะผิวน้ำจะจับตัวกันเป็นน้ำแข็งและมีการประดับไฟไลท์อัพทำให้สว่างไสวไปเท่าพื้นที่อีกด้วย
- การเดินทางจากสถานี Sapporoโดยสารด้วยรถไฟ JR Limited Express ไปลงที่สถานีAsahikawa ใช้เวลาโดยประมาน 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากนั้นให้นั่งรถไฟสาย Furano Line ไปลงทีสถานี Biei ใช้เวลา 35 นาที หรือรถบัส Biei-Shirogane Onsen แล้วลงที่ป้าย Shirogane Aoiike Iriguchi ใช้เวลา 30นาที
- ค่าเข้าสถานที่ ฟรี
4.เมืองนิเซโกะ (Niseko)
เป็นที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงและยังตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดฮอกไกโด โดยเสน่ห์ของที่นี่คงจะไม่ห้นเรื่องของ หิมะคุณภาพดี ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันมาที่ก็เพราะที่จะมาเล่นสโนว์บอร์ดและสกีกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในฤดูร้อนยังมีการแข่งขันกีฬากลางแจ้งยกตัวอย่าง เช่น การเดินป่าระยะไกล, ล่องแก่ง หรือขี่ม้า เป็นต้น ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ที่ เมืองนิเซโกะ (Niseko) ยังมีบ่อน้ำอนเซ็น มากมายอีกด้วย
สถานที่แนะนำในเมืองนิเซโกะ (Niseko)
Niseko Annupuri International Ski Area เป็นสถานที่เล่นสกีที่ดีติดอันดับต้นๆของโลก ช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับมือที่กำลังหัดเล่น โดยมีความพิเศษตรงที่มีลิฟต์เลื่อนขึ้นเนินให้ด้วย ไม่จำเป็นต้องเดินให้เหนื่อย ไม่ว่าเด็กหรือผู้สูงวัยก็สามารถขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารหลากหลายให้เลือกอีกด้วย
- การเดินทาง นั่งรถไฟด่วน JR จากสนามบินชินจิโตเสะถึงโอตารุใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีนั่งรถไฟ Hakodate Main Line For Kutchan จากโอตารุถึงนิเซโกะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที เนื่องจากรถไฟวิ่งให้บริการชั่วโมงละขบวนเท่านั้น จึงควรวางแผนเรื่องเวลาเดินทางให้ดี
- ค่าเข้าสถานที่ ฟรี
Niseko Kogane Onsen เป็นโรงแรมใหม่ล่าสุดในเมือง เปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปี 2014 และมี Onsen 2 แห่งทั้งแบบอาบน้ำหินในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งห้องซาวน่าและสระน้ำลึก Niseko Kogane Onsen มีบ่อ Onsen สุดพิเศษเพระในน้ำมีแร่ธาตุที่อุดมไปคุณประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหรือบำรุงผิด
- การเดินทาง นั่งรถบัสจาก Niseko Annupuri International Ski Area ไปลงที่ Niseko Kogane Onsen รถบัสจะวิ่งให้บริการ เพียง 1 คัน / 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น
- ค่าเข้าสถานที่ –
5.เมืองโนะโบะริเบะสึ ( Noboribetsu )
เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องของออนเซ็นใน จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงแหล่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแช่ออนเซ็นถึง 3 ล้านคน เลยทีเดียว นอกจากนี้ เมืองโนะโบะริเบะสึ ( Noboribetsu ) ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนจะอีกมากมาย
สถานที่แนะนำในเมืองโนะโบะริเบะสึ ( Noboribetsu )
หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu ) หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า “Hell Valley” ตั้งอยู่ทางเหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Hot Springs) ภายใน จังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) ที่ หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu ) ถือได้เป็นสถานที่มีชื่อเสียงเลยก็ว่าได้ เพราะว่าลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถันซึ่งก็เป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินทางต้องชอบที่นี่ไม่น้อยเลย เพราะจะมีเส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 20-30 นาทีจะพบกับลำธาร “โอยุนุมะกาว่า(Oyunumagawa)” ซึ่งไหลผ่านแม่น้ำหลายร้อยเมตร จุดนี้เองเราสามารถนั่งเพลิดเพลินพร้อมแช่เท้าท่ามกลางทัศนียภาพอันสสวยงดงาม
- การเดินทาง จากลำธารแช่เท้า (Oyunuma Brook Natural Footbath) เดินประมาณ 30 นาที
- ค่าเข้าสถานที่ ฟรี
Aji no Daio Noboribetsu Onsen สถานที่นี้เป็นที่รู้จักในนาม Jigoku (นรก) ได้มาเที่ยวที่ เมืองโนะโบะริเบะสึ ( Noboribetsu ) ก็อย่าพลาดที่จะลองราราเม็ง ที่จะมีระดับความเผ็ดให้เราเลือก รับรองได้เลยว่าเผ็ดถึงใจแน่นอน Design ของทางร้านจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ใครที่มาเที่ยวที่ จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ก็ไม่ควรที่จะพลาดกินราเม็งของร้าน Aji no Daio Noboribetsu Onsen นะครับ
- การเดินทาง นั่งรถบัสจากตัวเมืองโนะโบะริเบะสึ ( Noboribetsu ) ไปลงที่สถานี Noburibetsu Onsen
- เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันเวลา 21:00 – 02:00
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับการรีวิว 5 เมืองยอดนิยมใน จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) น่าสนใจทั้ง 5 เมืองเลยใช่ไหมล่ะครับถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไป เที่ยวฮอกไกโด ก็อย่าพลาด 5 เมืองยอดนิยมเหล่านี้เป็นอันขาดนะครับ เพราะรับรองได้เลยว่าเพื่อนๆ ไม่ผิดหวังกับการได้ เที่ยวฮอกไกโด ครั้งนี้อย่างแน่นอน….
ดูโปรโมชั่น ตั๋วญี่ปุ่น ของ Japan Airlines >>> ที่นี่