รวมสถานที่พิชิตแสงใต้ (Southern Lights)

รวมสถานที่พิชิตแสงใต้ (Southern Lights)

ครั้งที่แล้วพี่ช้างพาไปล่าแสงเหนือ แบบฟินๆกันแล้ว  คราวนี้ พี่ช้างจะพามาเยือนกับแสงใต้กันบ้าง เราอาจจะคุ้นเคยมากๆกับคำว่า “แสงเหนือ” มากกว่าแต่จริงๆแล้วหลายๆประเทศก็มีแสงสวยๆอีกหนึ่งปรากฎการณ์ คือ “Aurora Australis หรือ Southern Lights”  หรือ แสงใต้ นั่นเองครับ บอกเลยว่างดงามไม่แพ้แสงเหนืออย่างแน่นอน

“แสงใต้” เป็นอีกปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากอนุภาคพลังงานสูง (ที่เกิดจากปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ไม่ว่าจะเป็นจุดดับบนดวงอาทิตย์ หรือ โซลาแฟลร์-การประทุอย่างรุนแรงบนดวงอาทิตย์) เคลื่อนที่มากระทบกับสนามแม่เหล็กโลกในบริเวณชั้นบรรยากาศโลก โดยส่วนใหญ่แสงออโรราเกิดที่ความสูงประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บริเวณพื้นที่ขั้วโลกและขั้วแม่เหล็กโลก โดยเป็นแสงสวยงามเสมือนกับละอองสีที่พลิ้วบนแผ่นฟ้าในยามค่ำคืนที่เราเห็นกันครับ

ทั้ง Aurora Borealis หรือแสงเหนือบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ และ Aurora Australis หรือแสงใต้บริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดของแสง บางครั้งมันอาจเริ่มต้นจากบางสิ่งที่ดูจางๆ เป็นวงกลมนิ่งๆ แล้วก็ระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที และในบางครั้งดูเหมือนว่าแสงมันจะแตะกับพื้น หรือบางครั้งจะเห็นมันพุ่งจากพื้นขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วแสงออโรราเกิดขึ้นที่ความสูงห่างจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 300 กิโลเมตร ในบริเวณของชั้นบรรยากาศด้านบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ

แสงใต้นั้นมีเอกลักษณ์แตกต่างกับแสงเหนือตรงที่มีลำแสงหลากหลายสีสัน ทั้งเขียว เหลือง ชมพู และอีกหลายสี สามารถไปดูกันได้ที่ประเทศใกล้ขั้วโลกใต้อย่างนิวซีแลนด์หรือออสเตรเลียนั่นเอง บางจุดที่ออสเตรเลียนั้น เราสามารถมองเห็นแสงออโรร่าได้ตลอดทั้งปีเลยนะครับ

สถานที่ชมแสงใต้ (Southern Lights) ในออสเตรเลีย

การดูดาวเป็นกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลาย สงบและสุดแสนโรแมนติกที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในประเทศออสเตรเลียและช่างโชคดีที่ออสเตรเลียก็มีสถานที่มากมายให้ผู้คนได้เพลิดเพลินกับการดูดาว ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าการดูดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่ออสเตรเลีย นั่นคือ การดูและถ่ายภาพแสงใต้ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า“ออโรราออสเตรลีส” 😊

  • เกาะแทสมาเนีย (Tasmania)

หลายคนไม่รู้ว่า เกาะแทสมาเนียในออสเตรเลียจะสามารถดูแสงใต้ออโรรา ออสเตรลีสได้เหมือนกับดูแสงออโรราในเกาะไอซ์แลนด์หรือแคนนาดา แทสมาเนีย ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการมองเห็นความมหัศจรรย์ของแสงใต้ออโรราออสเตรลีส เพราะแทสมาเนียเปรียบเสมือนเกาะแห่งสนามแม่เหล็กของโลกที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้มากที่สุด หลายคนๆบอกพี่ช้างว่าแทสมาเนียเป็นที่ที่ดีที่สุดในซีกโลกใต้ของแอนตาร์กติกาสำหรับการชื่นชมและถ่ายภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ “แสงใต้ออโรรา ออสเตรลีส” เลยนะครับ สุดยอดไปเลย

  • เมืองโฮบาร์ต (Hobart)

ที่ออสเตรเลียนั้นถ้าหากอยากจะดูแสงเหนือต้องไปที่รัฐแทสมาเนีย (Tasmania)ครับ สามารถดูแสงใต้ได้จากหลายจุดในเมืองโฮบาร์ต เช่น ยอดเขาเมาท์เวลลิงตัน (Mount Wellington) ยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองโฮบาร์ต เมาท์เวลลิงตันมีความสูงกว่า 1,271 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนยอดเขานั้นมีอากาศหนาวเย็น มีหิมะปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี ที่นี่จึงหนึ่งจุดในโฮบาร์ตที่ผู้คนนิยมมาชมทั้งวิวทิวทัศน์ของโฮบาร์ตและแสงใต้ในยามค่ำคืน หรือจะเป็นที่ชายหาดแครมอร์น (Cremorne Beach) และเซาธ์อาร์ม (South Arm) ก็เป็นอีกสองจุดยอดฮิตที่ทุกคน สามารถไปนั่งรอคอยแสงใต้อยู่ริมชายหาดได้เช่นเดียวกัน

  • เมืองอะพอลโลเบย์ (Apollo Bay)

อะพอลโลเบย์เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่โด่งดังสำหรับการเที่ยวแบบ Road Trip ขับรถชมวิวสองข้างทางบนถนนเกรทโอเชียน (Great Ocean Road) อะพอลโลเบย์นั้นเป็นเพียงไม่กี่เมืองบนเกาะหลักของออสเตรเลียที่สามารถมองเห็นแสงออโรร่าได้ครับ ซึ่งแสงออโรร่าที่อะพอลโลเบย์ก็มีหลากหลายสีสัน ทั้งแดง เหลือง ม่วง และยังมีสีฟ้าซึ่งเป็นสีที่หาดูได้ยาก แสงออโรร่าที่นี่จะลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือช่องแคบแบส (Bass Strait)

  • เซาธ์อาร์ม (South Arm)

เซาธ์อาร์มอยู่ทางใต้ของเมืองโฮบาร์ต (Hobart) เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในการชมและถ่ายภาพแสงใต้ออโรรา ออสเตรลิสครับ ที่นี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยสร้างจากความคิดสร้างสรรค์ของชาวพื้นเมืองท้องถิ่น อย่างเช่น อาคารอันเก่าแก่ของ Ben Richardson อาคารที่ทำการไปรษณีย์เซาธ์อาร์ม (South Arm Post Office) ซึ่งมีอายุเก่าแก่ไมม่แพ้กันเลยครับ

 

สถานที่ชมแสงใต้ (Southern Lights) ในนิวซีแลนด์

ข้ามจากออสเตรเลียมานิวซีแลนด์กันบ้าง

  • ทะเลสาบโมเค (Moke Lake)

เป็นทะเลสาบขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใกล้เมืองโคลสเบิร์น (Closeburn) ในควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นที่นิยมอย่างมากในตอนกลางวันสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปิคนิค พายเรือ ขี่ม้า ว่ายน้ำ และด้วยความที่อยู่ห่างไกลเมืองจึงไม่มีแสงไฟเข้ามารบกวน ทำให้ยามค่ำคืนที่ทะเลสาบโมเคแห่งนี้เหมาะกับการมาชมแสงออโรร่าเป็นอย่างมาก แถมด้วยภาพสะท้อนเงาบนผิวน้ำ ประทับใจอย่างแน่นอน 😊  ยิ่งถ้าไปช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม นอกจากจะได้เห็นแสงออโรร่าแล้วยังมีโอกาสได้เห็นกาแล็กซี่ทางช้างเผือกอีกด้วยนะครับ

  • ควีนส์ทาวน์ (Queenstown)

หากใครแวะไปเที่ยวเมืองควีนส์ทาวน์ก็มีโอกาสเห็นแสงออโรร่าได้ไม่ยากครับ เพราะมีหลากหลายสถานที่ที่เหมาะสำหรับไปชมแสงออโรร่า เช่น ทะเลสาบวาคาตีปู (Lake Wakatipu) ทะเลสาบวานากา (Lake Wanaka) อ่าววิลสัน (Wilson Bay) ย่านเฟิร์นฮิลล์ (Fernhill) ฯลฯ เรียกได้ว่าสามารถมองเห็นแสงออโรร่าได้เกือบทั้งเมืองเลยทีเดียว พี่ช้างว่าแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์แล้วไปลงที่เมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown) เช่ารถขับตระเวนทั่วเกาะ แล้วตามล่าหาเสียงใต้ให้ทั่วกันได้เลยครับ

  • ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo)

อีกหนึ่งในจุดชมวิวที่จะต้องแวะเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินนิวซีแลนด์ครับ ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo) คือสถานที่ที่สามารถชมแสงออโรร่าและความงามจากทะเลสาบได้ในคราวเดียวกัน ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะใต้ ซึ่งเป็นจุดผ่านของเส้นทางการขับรถระหว่าง Christchurch และ Queenstown เป็นทะเลสาบน้ำจืดอยู่ไม่ไกลจากเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนยอดนิยมในประเทศนิวซีแลนด์ มีความสวยงามทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ในตอนกลางวันจะได้เห็นภาพทะเลสาบสีฟ้าล้อมรอบด้วยเทือกเขาสุดอลังการ แถมยังมีดอกลูพินเบ่งบานสะพรั่งโดยรอบ ส่วนตอนกลางคืนท้องฟ้าก็จะเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวงมาแทนที่ ทะเลสาบเทคาโปตั้งอยู่ในเขตสงวนท้องฟ้ายามราตรี ท้องฟ้าจึงมืดสนิท ไม่มีแสงไฟรบกวน ทำให้เรามีโอกาสมองเห็นแสงออโรร่าหรือแสงใต้ได้อย่างชัดเจน

แค่เช่ารถจากท่าอากาศยานเมืองควีนส์ทาวน์แล้วขับตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 8 เพียงขับตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นทะเลสาบเทคาโปอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งจุดชมแสงออโรร่านั้นจะอยู่บริเวณหน้าโบสถ์ เชิร์ช ออฟ เดอะ กู๊ด เชฟเฟิร์ด (Church of the Good Shepherd) ที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบเช่นกัน โดยที่จุดชมวิวนี้สามารถชมภาพความงดงามได้แบบเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้สูงใหญ่หรือสิ่งอื่นๆ มากวนสายตา ทำให้สามารถเก็บภาพบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ ฟินกันสุดๆ

  • สจ๊วต ไอแลนด์ (Stewart Island)

ประเทศนิวซีแลนด์นั้น มีเกาะหลักๆอยู่ 3 เกาะ นั่นก็คือ North Island, South Island และ Stewart Island ซึ่ง Stewart Island เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในสามเกาะนี้ ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศ โดยสามารถขึ้นเรือจาก South Island ข้ามไป Stewart Island ได้จากเมือง Invercargill

 

ความพิเศษของสถานที่ชมแสงออโรร่าที่เกาะสจ๊วต ไอแลนด์ (Stewart Island)  นั้น สามารถชมแสงออโรร่าที่ไหนก็ได้ เพราะรอบๆ เกาะสามารถเห็นแสงออโรร่าได้เกือบหมด การเดินทางก็ง่ายมาก โดยขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 1 ตรงมาเรื่อยๆ จนสุดทางก็จะพบกับท่าเรือไอแลนด์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ จากนั้นก็ต่อเรือข้ามฝากไปที่ฝั่งเกาะสจ๊วต ไอแลนด์  ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือไปเกาะด้วย ประมาณ 100-200 นิวซีแลนด์ดอลล่า

 

 

พี่ช้างแนะนำว่าอย่าลืมลืมเตรียมตัวให้พร้อม เนื่องจากอากาศมันหนาวมาก อุปกรณ์กันหนาว เช่น เสื้อ ชุด รองเท้า ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะตะลุยความหนาว รวมไปถึง Hot Pack และกระติกน้ำเก็บความร้อนจะช่วยได้เยอะทีเดียวครับ

ทังนี้แสงออโรร่าไม่สามารถมองเห็นได้ทุกวันนะครับ พี่ช้างแนะนำว่าควรเช็คพยากรณ์ไปก่อน ทั้งพยากรณ์อากาศว่าคืนที่เราจะไปตามล่าแสงออโรร่านั้นท้องฟ้าปลอดโปร่งหรือไม่ ถ้าวันนั้นมีเมฆน้อยก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นแสงใต้ นอกจากนั้นยังต้องเช็คพยากรณ์แสงออโร่ร่าที่เรียกว่าค่า KP ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 – 9 ถ้าหากค่า KP สูงมากก็มีโอกาสจะได้เห็นแสงมากขึ้น หากค่า KP 1 – 2 จะสามารถเห็นแสงด้วยตาเปล่าเป็นสีขาวหรือเทาจางๆ คล้ายกับก้อนเมฆหมอก ถ้าค่า KP 2 – 4 จะสามารถเห็นแสงด้วยตาเปล่าเป็นสีเขียวชัดเจน ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ถ้า KP 4 – 7 แสงก็ยิ่งสวยขึ้น กินพื้นที่กว้างขึ้น เคลื่อนไหวตลอดเวลา มองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างสวยงาม ส่วน KP 7 – 9 นี่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นอกจากจะเห็นแสงได้ชัดเจนแล้ว จะสามารถได้ยินเสียงของมันอีกด้วย เว็บไซต์ที่สามารถดูพยากรณ์แสงใต้ในนิวซีแลนด์ คือ aurora-service.net และ softservenews.com หรือถ้าอยากได้รับการแจ้งเตือน SMS ทางโทรศัพท์ถึงการเกิดปรากฏการณ์แสงใต้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ aurora-service.net

ใครที่อยากออกไปตามล่าหาแสงออโรร่า แค่จองตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์หรือออสเตรเลีย แล้วเตรียมกล้องดีๆ ให้พร้อม แล้วนับถอยหลังรอชมความงามจากธรรมชาติกันได้เลย!